LINE : @JUAD888 Telegram : @JUAD888V1
×
@JUAD888V1
เมื่ออยากเล่นคาสิโน ให้นึกถึง JUAD888 เว็บพนันออนไลน์ ที่มีเกมส์คาสิโนจากทุกค่าย รวมเอามาไว้ให้เล่นในเว็บเดียว SA GAMING , SEXY GAMING , PG , PRETTY GAMING และ GAMEPLAY อยากเล่นคาสิโนออนไลน์ เซ็กซี่บาคาร่า สล็อต ไฮโล เสือมังกร เกมส์ยิงปลา หรือเกมส์พนันอื่นๆ เรามีทีมงานคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง

วิธีเล่นรูเล็ต ความรู้พื้นฐานสู่การเป็นนักพนันมืออาชีพ

รู

รูเล็ตเป็นหนึ่งในเกมคาสิโนที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั่วโลก ด้วยกฎกติกาที่เข้าใจง่ายและความตื่นเต้นในการลุ้นผล ทำให้ผู้เล่นทั้งมือใหม่และมืออาชีพต่างหลงใหลในเสน่ห์ของวงล้อนี้ บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับรูเล็ตอย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ประวัติความเป็นมา ประเภทของวงล้อ ไปจนถึงกฎพิเศษต่าง ๆ ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการชนะของคุณ

ประวัติความเป็นมาของรูเล็ต

รูเล็ต (Roulette) มีรากศัพท์มาจากภาษาฝรั่งเศส แปลว่า “วงล้อเล็ก ๆ” ซึ่งสะท้อนถึงลักษณะสำคัญของเกมนี้ได้เป็นอย่างดี แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่า รูเล็ตเกิดขึ้นจากความผิดพลาดทางวิทยาศาสตร์

ในปี 1655 แบลซ ปัสกาล (Blaise Pascal) นักคณิตศาสตร์ นักฟิสิกส์ และนักปรัชญาชาวฝรั่งเศส พยายามสร้างเครื่องจักรนิรันดร์ (Perpetual motion machine) ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่สามารถทำงานได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องใช้พลังงานจากภายนอก แต่โครงการนี้ล้มเหลวเนื่องจากขัดกับกฎทางฟิสิกส์

แม้ว่าเครื่องจักรของปัสกาลจะไม่สามารถใช้งานได้จริง แต่กลไกการทำงานของมันกลับถูกนำมาพัฒนาต่อยอดในปี 1720 โดยผสมผสานเข้ากับเกมจับสลากตัวเลขที่เรียกว่า “บิริบี” (Biribi) จนกลายเป็นต้นแบบของวงล้อรูเล็ตที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน

รูเล็ตเริ่มปรากฏตัวครั้งแรกในคาสิโนที่กรุงปารีสเมื่อราวปี 1790 หลังจากนั้นไม่นาน ความนิยมของเกมนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วยุโรปและข้ามทวีปไปยังสหรัฐอเมริกาในช่วงศตวรรษที่ 19 จวบจนปัจจุบัน รูเล็ตยังคงครองตำแหน่งหนึ่งในเกมพนันที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก

ประเภทของวงล้อรูเล็ต

เมื่อพูดถึงวงล้อรูเล็ต หลายคนอาจนึกถึงภาพวงล้อสีดำที่มีตัวเลขสีแดงและดำสลับกันไป แต่ในความเป็นจริง วงล้อรูเล็ตที่ใช้ในคาสิโนออนไลน์มีอยู่ 2 ประเภทหลัก ๆ ซึ่งมีความแตกต่างกันเล็กน้อยแต่ส่งผลต่อโอกาสในการชนะของผู้เล่นอย่างมีนัยสำคัญ

  1. วงล้อรูเล็ตแบบยุโรป

วงล้อรูเล็ตแบบยุโรปเป็นรูปแบบดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมในแถบยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝรั่งเศส ลักษณะสำคัญของวงล้อประเภทนี้คือ มีช่องทั้งหมด 37 ช่อง โดยมีตัวเลข 0 อยู่ในช่องสีเขียว ส่วนตัวเลข 1-36 อยู่ในช่องสีแดงและดำสลับกันไป ในบางคาสิโนออนไลน์ อาจเรียกโต๊ะรูเล็ตแบบนี้ว่า “Single Zero Roulette” เนื่องจากมีช่องเลข 0 เพียงช่องเดียว

  1. วงล้อรูเล็ตแบบอเมริกัน

วงล้อรูเล็ตแบบอเมริกันเป็นรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมาภายหลัง มีความแตกต่างจากแบบยุโรปเพียงเล็กน้อย แต่ส่งผลต่อโอกาสในการชนะของผู้เล่นอย่างมาก ลักษณะสำคัญของวงล้อประเภทนี้คือ มีช่องทั้งหมด 38 ช่อง โดยมีช่องเลข 0 และ 00 อยู่ในช่องสีเขียว ส่วนตัวเลข 1-36 ยังคงอยู่ในช่องสีแดงและดำสลับกันเช่นเดิม โต๊ะรูเล็ตแบบนี้มักถูกเรียกว่า “Double Zero Roulette” เนื่องจากมีช่องศูนย์สองช่อง

แม้ว่าจะมีความแตกต่างในเรื่องจำนวนช่อง แต่กฎการเล่นพื้นฐานของรูเล็ตทั้งสองแบบยังคงเหมือนกัน นั่นคือ หากลูกบอลตกลงในช่องเลข 0 หรือ 00 คาสิโนจะเป็นฝ่ายชนะ

กฎพิเศษในการเล่นรูเล็ต

นอกเหนือจากกฎพื้นฐานทั่วไปแล้ว รูเล็ตยังมีกฎพิเศษที่ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้เล่นมีโอกาสชนะมากขึ้น กฎพิเศษเหล่านี้อาจไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลายนัก โดยเฉพาะในหมู่ผู้เล่นคาสิโนออนไลน์ที่มักจะวางเดิมพันและรอลุ้นผลเพียงอย่างเดียว แต่การรู้และเข้าใจกฎเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้เปรียบในการเล่นมากขึ้น

  1. กฎ La Partage

กฎ La Partage เป็นกฎที่นิยมใช้ในแถบยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฝรั่งเศส วิธีการเล่นตามกฎนี้มีดังนี้

  • ดีลเลอร์จะแบ่งช่องหมายเลขออกเป็น 2 กลุ่ม เช่น สีดำ/สีแดง, เลขคู่/เลขคี่
  • หากผู้เล่นวางเดิมพันในช่องใดช่องหนึ่ง และลูกบอลตกลงในช่องนั้น ถือว่าชนะ แม้ว่าจะทายคนละหมายเลขกับที่ลูกบอลตกก็ตาม
  • หากลูกบอลตกในช่องเลข 0 ผู้เล่นจะเสียเดิมพันเพียงครึ่งเดียว และได้รับส่วนที่เหลือคืน
  1. กฎ En Prison

กฎ En Prison หรือที่รู้จักกันในชื่อ “กฎขังคุก” เป็นอีกหนึ่งกฎที่นิยมใช้ในยุโรป มีวิธีการเล่นดังนี้

  • หากลูกบอลตกไปที่ช่องหมายเลข 0 ผู้เล่นจะไม่ได้รับเงินเดิมพันกลับมาเพื่อวางใหม่
  • เกมจะเริ่มรอบต่อไปทันทีโดยยึดเดิมพันเดิมที่วางไว้
  • หากในรอบถัดไป ผลออกมาตรงกับที่ผู้เล่นเดิมพันไว้ ถือว่าชนะ แต่หากไม่ตรง ถือว่าแพ้และเสียเดิมพันทั้งหมด
  1. กฎ Surrender

กฎ Surrender หรือ “กฎยอมแพ้” เป็นกฎที่นิยมใช้ในโต๊ะรูเล็ตแบบอเมริกัน มีลักษณะคล้ายกับกฎ La Partage แต่มีความแตกต่างเล็กน้อย ดังนี้

  • ใช้กับวงล้อที่มีช่องหมายเลข 0 และ 00
  • หากลูกบอลตกในช่อง 0 หรือ 00 ผู้เล่นจะเสียเดิมพันเพียงครึ่งเดียว

การรู้และเข้าใจกฎพิเศษเหล่านี้จะช่วยให้ผู้เล่นสามารถวางแผนการเดิมพันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดความเสียเปรียบต่อคาสิโนลงได้

รูปแบบการวางเดิมพันในรูเล็ต

การเล่นรูเล็ตไม่ได้มีเพียงแค่การทายตัวเลขที่จะออกเท่านั้น แต่ยังมีรูปแบบการวางเดิมพันที่หลากหลาย ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีอัตราการจ่ายเงินและโอกาสชนะที่แตกต่างกันไป การทำความเข้าใจกับรูปแบบการวางเดิมพันต่าง ๆ จะช่วยให้คุณสามารถวางแผนการเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งมีรูปแบบการวางเดิมพันอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบ ดังนี้

  1. Inside Bets: การเดิมพันวงใน

Inside Bets หรือการเดิมพันวงใน เป็นรูปแบบการวางเดิมพันที่ผู้เล่นสามารถวางชิปลงบนตัวเลขในตารางได้โดยตรง แม้ว่าจะมีความเสี่ยงสูง แต่ก็ให้ผลตอบแทนที่สูงเช่นกัน การเดิมพันแบบ Inside Bets มีวิธีการวางเดิมพันทั้งหมด 8 วิธี ดังนี้

  • Straight (แทงเต็งเลข): วางเดิมพันบนตัวเลขใดตัวเลขหนึ่งโดยเฉพาะ มีอัตราต่อรอง 36:1
  • Split (แทงค่อมเลข 2 ตัว): วางเดิมพันบนเส้นระหว่างสองตัวเลขที่อยู่ติดกัน มีอัตราต่อรอง 18:1
  • Street (แทงค่อมเลข 3 ตัว): วางเดิมพันที่ปลายแถวของสามตัวเลขที่อยู่ในแถวเดียวกัน มีอัตราต่อรอง 12:1
  • Six Line (แทงค่อมเลข 6 ตัว): วางเดิมพันที่ปลายแถวของสองแถวที่อยู่ติดกัน รวมเป็น 6 ตัวเลข มีอัตราต่อรอง 6:1
  • Corner (แทงค่อมเลข 4 ตัว): วางเดิมพันตรงมุมที่ตัวเลขสี่ตัวมาบรรจบกัน มีอัตราต่อรอง 9:1
  • Trio (แทงค่อมเลข 3 ตัว): วางเดิมพันบนเส้นที่แบ่งระหว่าง 0, 1, 2 หรือ 0, 2, 3 มีอัตราต่อรอง 12:1
  • Basket (แทงค่อมเลข 4 ตัว): วางเดิมพันบนเส้นแบ่งระหว่าง 0, 1, 2, 3 มีอัตราต่อรอง 9:1
  • Top Line (แทงค่อมเลข 5 ตัว): วางเดิมพันบนเส้นแบ่งระหว่าง 0, 00, 1, 2, 3 (เฉพาะรูเล็ตแบบอเมริกัน) มีอัตราต่อรอง 7:1

สำหรับสัดส่วนเงินที่จะได้รับคืนในการเล่นแบบ Inside Bets นั้น หากเป็นรูเล็ตแบบยุโรปจะอยู่ที่ 97.3% สำหรับทุกรูปแบบการวางเดิมพัน ในขณะที่รูเล็ตแบบอเมริกันจะได้น้อยกว่าคือ 94.74% และต่ำสุดคือ 92.1% สำหรับการแทงแบบค่อมเลข 5 ตัว (Top Line) ที่มีอัตราจ่าย 7:1

  1. Outside Bets: การเดิมพันวงนอก

Outside Bets หรือการเดิมพันวงนอก เป็นรูปแบบการวางเดิมพันที่ผู้เล่นไม่สามารถวางชิปลงบนตัวเลขในตารางได้โดยตรง แต่จะต้องวางตามช่องที่อยู่รอบ ๆ นอกตารางแทน การเดิมพันแบบนี้มีความเสี่ยงต่ำกว่า Inside Bets แต่ก็ให้ผลตอบแทนที่น้อยกว่าเช่นกัน

การเดิมพันแบบ Outside Bets มีวิธีการวางเดิมพัน 3 วิธีหลัก ๆ ดังนี้

  • แทงสีแดงหรือสีดำ: เลือกว่าลูกบอลจะตกลงในช่องสีแดงหรือสีดำ
  • แทงเลขต่ำ (1-18) หรือเลขสูง (19-36): เลือกว่าลูกบอลจะตกลงในช่วงเลข 1-18 หรือ 19-36
  • แทงเลขคู่หรือเลขคี่: เลือกว่าลูกบอลจะตกลงในช่องเลขคู่หรือเลขคี่

การเดิมพันแบบ Outside Bets ทั้งหมดมีอัตราต่อรองอยู่ที่ 1:1 หมายความว่าหากชนะ ผู้เล่นจะได้รับเงินเท่ากับจำนวนที่เดิมพันไป

แม้ว่าการวางเดิมพันในรูปแบบนี้จะทำกำไรได้น้อยกว่า Inside Bets แต่ด้วยโอกาสได้เสียที่ใกล้เคียง 50/50 ทำให้นักเดิมพันนิยมใช้ร่วมกับสูตรเดินเงินต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทำกำไรในระยะยาว สำหรับสัดส่วนเงินที่จะได้รับคืนในการเล่นแบบ Outside Bets นั้น หากเป็นรูเล็ตแบบยุโรปจะอยู่ที่ 97.3% ในขณะที่รูเล็ตแบบอเมริกันจะอยู่ที่ 94.74%

  1. Announced Bets: การเดิมพันแบบประกาศ

Announced Bets หรือการเดิมพันแบบประกาศ เป็นรูปแบบการวางเดิมพันพิเศษที่ผู้เล่นสามารถบอกดีลเลอร์ได้โดยตรงว่าจะเลือกวางชิปแบบใด ในตำแหน่งไหน โดยไม่ต้องวางชิปด้วยตัวเอง วิธีนี้มีความซับซ้อนมากกว่า Inside Bets และ Outside Bets ทำให้ไม่ค่อยพบในคาสิโนออนไลน์ทั่วไป

อย่างไรก็ตาม นักเดิมพันมืออาชีพมักนำรูปแบบการเดิมพันแบบ Announced Bets มาออกแบบวิธีเล่นเฉพาะตัว เพื่อเพิ่มโอกาสในการชนะ ตัวอย่างของการเดิมพันแบบ Announced Bets ที่นิยมใช้กัน ได้แก่:

  • Voisins du Zéro (Neighbors of Zero): เป็นการเดิมพันบนกลุ่มตัวเลขที่อยู่ใกล้กับเลข 0 บนวงล้อ
  • Tiers du Cylindre (Third of the Wheel): เป็นการเดิมพันบนกลุ่มตัวเลขที่อยู่ตรงข้ามกับ Voisins du Zéro บนวงล้อ
  • Orphelins (Orphans): เป็นการเดิมพันบนกลุ่มตัวเลขที่เหลือจาก Voisins du Zéro และ Tiers du Cylindre

การเลือกรูปแบบการเดิมพันที่เหมาะสม

การเลือกรูปแบบการเดิมพันในรูเล็ตนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เงินทุนที่มี และเป้าหมายในการเล่น โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถแบ่งกลยุทธ์การเดิมพันออกเป็น 3 แบบหลัก ๆ ดังนี้

  1. กลยุทธ์แบบเสี่ยงสูง ผลตอบแทนสูง: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำกำไรในระยะสั้น และยอมรับความเสี่ยงได้สูง มักใช้การเดิมพันแบบ Inside Bets โดยเฉพาะการแทงเต็งเลข (Straight) ที่ให้อัตราต่อรองสูงสุดถึง 36:1
  2. กลยุทธ์แบบเสี่ยงปานกลาง ผลตอบแทนปานกลาง: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน อาจใช้การผสมผสานระหว่าง Inside Bets และ Outside Bets เช่น การแทงค่อมเลข (Split, Street, Corner) ร่วมกับการแทงสีหรือแทงเลขสูง/ต่ำ
  3. กลยุทธ์แบบเสี่ยงต่ำ ผลตอบแทนต่ำ: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเล่นในระยะยาวและรักษาเงินทุนไว้ มักใช้การเดิมพันแบบ Outside Bets เป็นหลัก เช่น การแทงสี แทงเลขคู่/คี่ หรือแทงเลขสูง/ต่ำ ซึ่งมีโอกาสชนะใกล้เคียง 50%